แฟชั่นโลลิต้า (Lolita Fashion)
โลลิต้า (Lolita) เป็น สังคมย่อยๆ ของแวดวงแฟชั่นในญี่ปุ่น ซึ่งแรกเริ่มเดิมทีได้รับอิทธิพลจากเสื้อผ้าของเด็กในยุควิคตอเรีย หรือที่รู้จักกันดีกับเสื้อผ้าในยุค Rococo แฟชั่น โลลิต้าถูกเติมแต่งให้เป็นแฟชั่นที่มีเอกสักษณ์โดยการเพิ่มลุคแบบโกธิคและ ส่วนประกอบตามแบบต้นตำรับเข้าไป ด้วยเหตุนี้ แฟชั่นโลลิต้าจึงจัดเป็นสไตล์แฟชั่นย่อยๆ และนำไปสู่การก่อตัวเป็นสังคมย่อยๆ ในญี่ปุ่น ความเป็นโลลิต้าในเบื้องต้นประกอบด้วย กระโปรงความยาวระดับเข่า หรือเดรส (Dress) เฮดเดรสหรือเครื่องประดับศีรษะ(Headdress) เสื้อ (Blouse) กระโปรงสุ่ม ถุงเท้าหรือถุงน่องระดับเข่า และรองเท้า Rocking horse หรือรองเท้าส้นสูง หมีเท็ดดี้แบร์ และตุ๊กตาอย่าง Super Dollfies ที่มักจะถือไว้เป็นให้เหมือนเด็กๆ
ประวัติความเป็นมาของแฟชั่นโลลิต้า
แม้ว่าจะไม่รู้แน่ชัดว่า โลลิต้า มีจุดเริ่มต้นอย่างไร โลลิต้าที่รู้จักกันทุกวันนี้ ส่วนใหญ่แล้วเริ่มต้นในช่วงปลายยุค 1970s กับการก่อตั้งแบรนด์ชื่อดังอย่าง Pink House and Milk ขายเสื้อผ้าซึ่งจะเหมาะกับมาตรฐานของชุดโลลิต้าทุกวันนี้ และที่ตามมาติดๆ คือ Baby, The Stars Shine Bright และ Metamorphose temps de fille ต่อมาในช่วงยุค 1990s แฟชั่นโลลิต้าเริ่มถูกนำมาใช้โดยวง Malice Mizer และ Visual Kei อื่นๆ ทำให้เป็นที่นิยม วงเหล่านี้สวมเสื้อผ้าที่ประณีตสวยงาม ซึ่งแฟนๆ ของพวกเขาเริ่มนำมาเป็นสไตล์การแต่งตัวของตัวเอง ในไม่ช้าก็เริ่มแพร่เข้าสู่เขตคันไซ (Kansai) จนในที่สุดก็เข้ามาโตเกียว (Tokyo) ที่ ซึ่งทำให้เป็นที่นิยมของวัยรุ่นญี่ปุ่นไปทั่ว เมื่อวงเหล่านี้เริ่มสวมใส่เสื้อผ้าสไตล์โลลิต้า ก็ได้รับความนิยมอย่างรวดเร็ว และแม้ทุกวันนี้ โลลิต้าสไตล์อเมริกันส่วนใหญ่จะบอกว่าพวกเขาได้แบบอย่างมาจากวง Visual Kei ของญี่ปุ่นที่ชื่นชอบ ความนิยมของแฟชั่นโลลิต้าเติบโตขึ้นอย่างรวดเร็ว ซึ่งเราสามารถพบเห็นได้แม้กระทั่งในห้างสรรพสินค้า
ประเภทต่างๆ ของโลลิต้า
โกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita)
โกธิคโลลิต้า (Gothic Lolita) ในญี่ปุ่นจะรู้จักกันในชื่อ gosurori (โกสึโรริ) หรือ goth-loli (ก็อธโลลิ) เป็นการผสมผสานระหว่างแฟชั่น Gothic และ Lolita ส่วนต้นกำเนิดของสไตล์โกธิคของญี่ปุ่น เราจะย้อนไปที่การมาของคลื่นลูกใหม่ของอังกฤษระหว่างยุค 1980s อย่าง ไรก็ตาม ภาพความเป็นโกธิคของชาวญี่ปุ่นแตกต่างจากสังคมโกธิคของชาวตะวันตก แฟชั่นโกธิคนี้ได้ถูกผสานเข้ากับแฟชั่นโลลิต้าผ่านการใช้เมคอัพโทนสีที่มืด กว่า เสื้อผ้า และแนวการออกแบบ ที่ไม่เหมือนกับสไตล์โลลิต้าอื่นๆ สีในโทนที่มืดกว่าของโกธิคโลลิต้าใช้ในการแต่งหน้า ลิปสติกสีแดงและตาสีสโมคกี้ (smoky) การ ใช้อายไลเนอร์สีดำเป็นสไตล์เฉพาะ การแต่งหน้าสไตล์โกธิคโลลิต้าจะไม่เข้มหรือเป็นการแต่งแบบที่ใช้เพื่อเล่น ละครเท่ากับโกธิคในฝั่งตะวันตก สไตล์การแต่งหน้าแบบใหม่นี้จะเน้นสีสันที่ดูเบากว่า แต่ยังคงการแต่งตาที่เข้มอยู่
ตัว ชุดโกธิคโลลิต้าเองจะมีเฉดสีมืด อย่างเช่นสีดำ สีน้ำเงินเข้ม สีม่วง สำหรับสีดำและสีขาวเป็นเฉดสีที่เราพบเห็นมากที่สุดในแนวโกธิคโลลิต้านี้ KuroLoli จะใช้สีดำล้วนเท่านั้น
บ่อย ครั้งที่จะเห็นว่าชุดโกธิคโลลิต้ามีรายละเอียดของผ้าน้อยกว่าโลลิต้าสไต ล์อื่น เครื่องประดับรูปไม้กางเขน และสัญลักษณ์อื่นๆ ทางศาสนาก็จะถูกนำมาใช้ประดับกับชุดสไตล์โกธิคโลลิต้าด้วย เครื่องแต่งกายอื่นๆ ได้แก่ กระเป๋า กระเป๋าสตางค์ มักจะเป็นรูปทรงค้างคาว โลงศพ และไม้กางเขน
เช่นเดียวกับแฟชั่นโลลิต้าอื่นๆ การเคลื่อนไหวของ Visual Kei ญี่ปุ่นมีส่วนส่งเสริมและเผยแพร่ให้สไตล์โกธิคโลลิต้าเป็นที่นิยม โดยเฉพาะอย่างยิ่ง นักดนตรีและแฟชั่นดีไซเนอร์ชาวญี่ปุ่นที่ชื่อว่า Mana ซึ่งนับได้ว่าเป็นผู้อยู่เบื้องหลังคนสำคัญที่ทำให้สไตล์โกธิคโลลิต้าเป็นที่นิยม แม้ว่าเขาจะไม่ใช่ผู้คิดค้นมันก็ตาม Mana มีแบรนด์แฟชั่นโกธิคโลลิต้าของตัวเองที่ชื่อว่า Moi-même-Moitié ซึ่งประสบความสำเร็จอย่างมาก คำจำกัดความของดีไซน์ของแบรนด์นี้ก็คือ Elegant Gothic Lolita (EGL) and Elegant Gothic Aristocrat (EGA)
สวีทโลลิต้า (Sweet Lolita)
สวีทโลลิต้า (Sweet Lolita) หรือที่ภาษาญี่ปุ่นเรียกว่า อะมะโลลิ (amaloli) (อะมะ แปลว่าหวาน) ได้รับอิทธิพลจากสไตล์ Rococo หรือ จากการ์ตูนผู้หญิง เน้นที่ความเป็นเด็กและความเป็นแฟนตาซีของโลลิต้า สวีทโลลิต้าเป็นสไตล์ของโลลิต้าโดยพื้นฐาน ใช้โทนสีอ่อนๆ และแนวแฟนตาซีแบบเด็กๆ ในการออกแบบ
การ แต่งหน้าในสไตล์สวีทโลลิต้านี้ โดยทั่วไปก็คล้ายคลึงกับสไตล์โลลิต้าส่วนใหญ่ เน้นความเป็นธรรมชาติ เพื่อให้ยังคงดูเด็กในความเป็นโลลิต้า สีโทนพาสเทลอ่อนๆ ชมพูอ่อนๆ และการแต่งหน้าด้วยโทนสีธรรมชาติ คือการแต่งหน้าโลลิต้าสไตล์นี้
แฟชั่นสวีทโลลิต้า (Sweet Lolita) จะ เน้นรูปลักษณ์การดีไซน์ให้ดูเหมือนเด็ก ชุดจะประกอบด้วยสีพาสเทล ผ้าลายทาง ตารางหมากรุก หรือลวดลายอื่นๆ ที่มีสีสันสดใส ลูกไม้ โบว์ และริบบิ้น เพื่อเน้นให้ดีไซน์ดูน่ารัก ธีม (theme) ที่นิยมในการแต่งสวีทโลลิต้าอิงจากเรื่อง Alice in Wonderland ผลไม้ และขนมเค้ก และเพื่อยังคงความรู้สึกเป็นเด็ก รองเท้าจะมีส้นที่เล็กกว่าโลลิต้าสไตล์อื่นๆ
เครื่องประดับก็มักจะบ่งบอกถึงแนวแฟนตาซีด้วย ที่นิยมก็ได้แก่ เชอรี่ ขนมเค้ก หัวใจ ริบบิ้น และโบว์ สำหรับเฮดเดรส (Headdress) และ โบว์ก็เป็นเครื่องประดับผมที่นิยมเช่นกันในการแต่งกายแบบสวีทโลลิต้า กระเป๋าและกระเป๋าสตางค์ก็มักจะเป็นรูปสัตว์หรือหัวใจที่ยัดนุ่นนุ่มนิ่ม
สวีทโลลิต้า ยังรวมไปถึง ShiroLoli ซึ่งจะเป็นสีขาวล้วนเท่านั้น และ Country Lolita ซึ่งผ้าที่ใช้จะเป็นลายทางหรือตารางหมากรุก และถือตะกร้าสาน
Momoko ผู้มีบทบาทสำคัญในหนังสือ/ภาพยนตร์ Shimotsuma Monogatari (ใช้ชื่อ Kamikaze Girls ในอเมริกา) ก็เป็นตัวอย่างของสวีทโลลิต้าที่นิยมเช่นกัน เธอดึงเอาศิลปะในยุค Rococo และมักจะทำท่าทางแบบเด็กสาวหวานแหววผู้ไร้เดียงสา และแต่งกายด้วยชุดสวีทโลลิต้าที่เป็นที่นิยม คือ Baby, The Stars Shine Bright ส่วนแบรนด์อื่นๆ ก็ได้แก่ Manifesteange Metamorphose temps de fille และ Angelic Pretty
คลาสสิคโลลิต้า (Classic Lolita) เป็นโลลิต้าสไตล์ที่ดูเป็นผู้ใหญ่ขึ้นมาอีกขั้น ซึ่งจะเน้นที่สไตล์บาโรค (Baroque) และ Rocaille คลา สสิคโลลิต้านี้ เราจะคุ้นหน้าคุ้นตามากกว่าสไตล์อื่น มีความเป็นผู้ใหญ่ เนื่องจากแพทเทิร์นที่เล็ก ประณีต สีเรียบๆ บนผืนผ้า รวมไปถึงแบบของชุด โทนสีของสไตล์คลาสสิคโลลิต้าจะอ่อนกว่าสไตล์โกธิคโลลิต้า แต่ไม่อ่อนเท่าสไตล์สวีทโลลิต้า เดรสที่เข้าเอวทรง empire waist หรือ แบบใต้อก ได้นำมาใช้ในลุคแบบคลาสสิคโลลิต้าเพื่อให้ดูเป็นผู้ใหญ่มากขึ้น รองเท้าและเครื่องประดับจะไม่ค่อยแปลกและมีประโยชน์ใช้สอยมากขึ้น เครื่องประดับจิวเวลรี่ที่มีดีไซน์ประณีตก็เอามาใช้ในสไตล์นี้ด้วย การแต่งหน้าเป็นแบบเรียบๆ มากกว่าสไตล์สวีทโลลิต้าทีเน้นโทนธรรมชาติ สไตล์คลาสสิคโลลิต้านี้จะใช้เดรสที่ดูแล้วมีทรวดทรงองค์เอวเมื่อเทียบกับโล ลิต้าสไตล์อื่น เพื่อให้ดูเป็นผู้ใหญ่ ตัวอย่างแบรนด์ที่เป็นคลาสสิคโลลิต้า ได้แก่ Juliette et Justine, Innocent World, Victorian Maiden และ Mary Magdalene
พั้งค์โลลิต้า (Punk Lolita)
พั้งค์โลลิต้า (Punk Lolita) หรือ โลลิต้าพั้งค์ (Lolita Punk) เป็น การใส่แฟชั่นแนวพั้งค์ผนวกเข้ากับแฟชั่นโลลิต้า แนวคิดของแฟชั่นแนวนี้ก็คือ สิ่งที่เราสามารถพบเห็นได้ในเสื้อผ้าแนวพั้งค์ อย่างเช่น การใช้ผ้ารุ่งริ่ง เข็มกลัดซ่อนปลายและสายโซ่ ผ้าสกรีนลาย ผ้าตารางหมากรุก และสไตล์การทำผมแบบตัดสั้น และให้มีบุคลิกแบบทั้งชายและหญิงรวมอยู่ด้วยกัน โดยสิ่งเหล่านี้ได้ถูกรวมเข้าไว้ในความเป็นโลลิต้า เสื้อผ้าที่นิยมมากที่สุดก็คือ blouse หรือ cutsew และกระโปรง แม้กระทั่งเดรสและจั๊มพ์เปอร์สเกิร์ต (jumper skirt) ก็เอามาสวมใส่ด้วย รองเท้าฟุตแวร์ธรรมดาๆ รวมถึงรองเท้าบู๊ทอย่าง Mary Janes หรือ Oxfords with platforms แบรนด์ที่ขายเสื้อผ้าแนว Punk Lolita ได้แก่ A+Lidel, Putumayo, h. NAOTO และ Na+H. Many แบรนด์แฟชั่นแนว Punk Lolita ของญี่ปุ่นส่วนมากรับเอาอิทธิพลจาก Camden Town Markets ที่มีชื่อเสียงของเมืองลอนดอน Vivien Westwood (วิเวียน เวสต์วูด) ผู้ซึ่งแม้ว่าจะไม่ใช่ดีไซเนอร์แนวโลลิต้า แต่ก็มีของและคอลเลคชั่นที่สะท้อนกลิ่นอายของโลลิต้า โดยเฉพาะอย่างยิ่งในคอลเลคชั่นญี่ปุ่นของเธอนั้น ได้รับความนิยมในแนว Punk Lolita
โลลิต้าแนวอื่นๆ (Other Lolita)
อันเนื่องมาจากธรรมชาติการตัดเย็บเสื้อผ้าด้วยตัวเอง (DIY : Do It Yourself) ของ แฟชั่นโลลิต้า ประเภทอื่นๆ อีกมากมายที่กระโดดออกจากกรอบเดิมๆ ของโลลิต้า สไตล์เหล่านี้มักไม่เป็นที่รู้จักเหมือนกับที่ได้กล่าวมาเบื้องต้น แต่พวกเขาได้ใส่ความคิดสร้างสรรค์เข้าไปในแฟชั่นโลลิต้าและประกอบกับวิธีการ ในแนวแฟชั่นของตัวเองเข้าไป ประเภทแฟชั่นโลลิต้าด้านล่างนี้เป็นเพียงตัวอย่างเล็กๆ น้อยๆ ที่หยิบยกมา ได้แก่
วะโลลิต้า (Wa Lolita)
วะโลลิต้า (Wa Lolita) หรือ วะโลลิ (Waloli) ประกอบด้วยสไตล์เสื้อผ้าแบบดั้งเดิมของญี่ปุ่นและแฟชั่นโลลิต้า Wa Lolita โดยปกติแล้วประกอบด้วยกิโมโนหรือ hakama โดยประยุกต์ให้เข้ากับเครื่องแต่งกายแบบโลลิต้า ในท่อนล่างของชุดจะถูกดัดแปลงให้เหมาะกับกระโปรงสุ่ม หรือ blouse สไตล์กิโมโนก็จะนำมาให้เป็นท่อนบนคู่กับกระโปรงโลลิต้าแบบเรียบๆ เครื่องแต่งกายภายนอกเป็นได้ทั้ง haori (เสื้อโค้ทความยาวครึ่งตัวสไตล์ญี่ปุ่น หรือเสื้อกั๊ก hifu ไซส์ผู้ใหญ่ รองเท้าและ accessories ที่ใช้กับสไตล์นี้ได้แก่ เครื่องแต่งตัวในแบบฉบับดั้งเดิมของญี่ปุ่น อันรวมถึงกิ๊บติดผมดอกไม้และรองเท้าเกตะ (geta) โซจิ (Zori) หรือ โอโคโบะ (Okobo) รองเท้าเหล่านี้บ่อยครั้งใช้แทน platform loli แบบธรรมดาๆ และรองเท้าส้นสูง
Qi Lolita เป็นสไตล์คล้ายคลึงกัน แต่ใช้เสื้อผ้าและ accessories แบบจีนแทนญี่ปุ่น โดยปกติแล้วจะรวมถึงชุดกี่เพ้า และเดรส cheongsam ที่ถูกดัดแปลงให้เหมาะกับกระโปรงสุ่ม accessories จะรวมถึงรองเท้าแตะ platform และวิกมวยผมสำหรับเป็นเครื่องประดับผม
แฟชั่นโลลิต้าของผู้ชาย (Ouji / Kodona / Dandy)
โอจิ (Ouji) หรือ โอจิซามะ (Oujisama) หมาย ถึง เจ้าชาย เป็นแฟชั่นญี่ปุ่นที่ถูกพิจารณาเป็นแฟชั่นโลลิต้าในเวอร์ชั่นของผู้ชาย สไตล์นี้ได้รับอิทธิพลมาจากเสื้อผ้าของเด็กผู้ชายในยุควิคตอเรีย
การแต่งกายสไตล์ Ouji ได้รับแรงบันดาลใจจากเด็กผู้ชายยุควิคตอเรีย แต่ทั้งผู้หญิงและผู้ชายก็สามารถใส่ได้ เครื่องแต่งกายสไตล์นี้รวมถึงเสื้อ blouse และ เชิ้ตแบบผู้ชาย กางเกงรัดเข่า และกางเกงขายาวแบบสั้น ถุงเท้าความยาวประมาณเข่า หมวก หมวกแก๊ปเด็กส่งหนังสือพิมพ์ โดยปกติจะใช้สีดำ ขาว น้ำเงิน แดงคล้ำ (burgundy) แต่ การแต่งกายของผู้หญิงจะใช้เฉดสีที่มากกว่านี้ การแต่งหน้าจะแต่งแบบบางๆ น้อยๆ แต่หากเป็นผู้หญิงแต่งกายสไตล์นี้ ก็จะแต่งมากกว่าการแต่งสไตล์โลลิต้า ผู้ที่สวมใส่สไตล์ Ouji ที่มีชื่อเสียงมากที่สุด ได้แก่ ริวทาโร่ จาก พลาสติกทรี (Plastic Tree) และ ยุคเกะ จาก Mucc
คำว่า kodona (มาจากคำว่า kodomo otona แปลตามตัวคือ เด็กผู้ใหญ่) บัญญัติโดย ริวทาโร่ อะริมุระ นักร้องวง Plastic Tree ที่เขาได้อธิบายถึงความรู้สึกของชุดเดรสของเขา และบ่อยครั้งที่ได้นำคำนี้มาใช้เป็นชื่อเรียกแฟชั่นทางตะวันตก
อิตะโลลิ (Ita Loli)
ในภาษาญี่ปุ่น คำแสดงความรู้สึก “itai!” บ่งบอกถึงความรู้สึกเจ็บปวดหรือได้รับความเจ็บปวด ถ้ามีใครบางคนได้รับการพูดว่า “Ita Loli” นั่น ก็หมายความว่า คนๆ นี้แต่งกายแบบโลลิต้าได้แย่มาก (บางทีหมายถึง ไม่มีประสบการณ์) เพียงแค่มองก็รู้สึกแย่ เหล่าสาวกโลลิต้าผู้มีประสบการณ์มักจะรับไม่ได้กับบรรดาผู้เริ่มแต่งกายแบบ โลลิต้า คุณอาจจะได้ยินคำๆ นี้จากผู้มีประสบการณ์มากกว่าในการแต่งโลลิต้า สิ่งหนึ่งที่จะได้ยินก็คือ ถูกตราหน้าว่าเป็น itai loli ที่พยายามแต่งกายเป็นโลลิต้าแบบโชว์เนื้อหนังมากเกินไป
โลลิต้า (Lolita)
ถึงแม้ว่าโลลิต้าจะอ้างอิงถึงนวนิยายที่มีชื่อเสียงของวลาดิมีร์ นาโบคอฟ (Vladimir Nabokov) และแฟชั่นโลลิต้าที่วัยรุ่นสวมใส่กันบ่อยครั้ง ผู้ที่ตามแฟชั่นโลลิต้าส่วนใหญ่ไม่ได้พิจารณาว่ามันเป็น sexual อย่าง ชัดเจน เหล่าสาวกทั้งหลายพรีเซ็นต์ตัวเองอย่างเด็กสมัยวิคตอเรีย หรือตุ๊กตาเด็กทารก และจะดูมีความน่ารักมากกว่าความเซ็กซี่ โลลิต้าหลายสไตล์พูดได้ว่าโลลิต้าไม่จำเป็นว่าจะต้องเป็นอะไรที่เกี่ยวกับ เซ็กซ์ทั้งหมด การใช้คำๆ นี้อาจจะถูกพิจารณาว่าเป็น วะเซเอโงะ wasei-eigo (ภาษา ญี่ปุ่น-อังกฤษ) ด้วย วัฒนธรรมญี่ปุ่นได้วางคุณค่าในภาพที่คนมองและในแง่พฤติกรรมไว้สูงกว่าทางฟาก ตะวันตก สุภาพสตรีบางคนได้ซื้อสินค้าเหล่านี้มากมาย อย่างเช่น เฮลโลคิตตี้ (Hello Kitty) ที่ทำขึ้นให้เหมาะกับกลุ่มเด็กตะวันตกโดยเฉพาะ บางทีเราจะได้เห็นการต่อยอดของโกธิคโลลิต้ามากกว่าในสไตล์อื่น
อิทธิพลของโลลิต้าและโกธิคโลลิต้า
โกธิคโลลิต้า เป็นสไตล์ที่ได้รับอิทธิพลและเผยแพร่โดยการจินตนาการของวง Visual Kei (หรือ visual rock) มากมาย Visual Kei เป็นรูปแบบเพลงร็อคของญี่ปุ่น ซึ่งถูกนิยามโดยวงดนตรีที่แต่งกายในชุดที่ประณีตสวยงาม แต่สไตล์ของเพลงมีความหลากหลาย Mana ซึ่งเป็นผู้นำในด้านการแต่งกายลายไม้กางเขนและนักกีตาร์ของวง Visual Kei ที่รู้จักกันในนาม Malice Mizer เป็นผู้ที่มีส่วนเผยแพร่แนวโกธิคโลลิต้าให้เป็นที่รู้จัก เขาได้นิยามคำว่า Elegant Gothic Lolita (EGL) and Elegant Gothic Aristocrat (EGA) เพื่ออธิบายสไตล์แฟชั่นของเขาเอง ในแบรนด์ Moi-même-Moitié ซึ่งก่อตั้งในปี ค.ศ.1999 และ ความนิยมก็ก่อตัวขึ้นอย่างรวดเร็ว ราวกับว่าเป็นหนึ่งในแบรนด์โกธิคโลลิต้าที่คนถวิลหามากที่สุด
อนิเมะและมังงะ (Anime and Manga)
สืบ เนื่องมาจากความนิยมสไตล์ที่น่ารักๆ นี้ บวกกับแฟนคลับของอนิเมชั่นและการ์ตูนญี่ปุ่นจำนวนมากมาย เดรสในสไตล์โลลิต้าจึงสามารถพบได้ในอนิเมะและมังงะ ตัวอย่างที่เด่นๆ ก็ได้แก่ Paradise Kiss, Le Portrait de Petit Cossette, Tsukuyomi - Moon Phase, Othello, Chobits, xxxHOLiC,Rozen Maiden, Tsubasa: Reservoir Chronicle (Infinity Arc), Princess Princess, Godchild, และ Dazzle (manga)
ตัวอย่างที่ยกมานี้ส่วนใหญ่แล้วจะมีแฟนคลับเป็นผู้ชายมากกว่าสาวกโลลิต้าเสียอีก อย่างไรก็ตาม เราสามารถเห็น Lolita girl จำนวนมากตามงานอีเวนต์มังงะ อย่างเช่น งานคอมมิเกะ (Comiket) เป็นต้น พวกเขามักจะซื้อโดจินชิ (doujinshi) โดย ขึ้นอยู่กับวงดนตรี ตุ๊กตา และตัวละครในภาพยนตร์ที่ชื่นชอบ นอกจากนี้ก็มีคนส่วนหนึ่งที่สนใจการคอสเพลย์มากกว่าการแต่งตัวสไตล์โลลิต้า
วัฒนธรรมโลลิต้า
ในญี่ปุ่น ทั้งๆ ที่โลลิต้ายังเป็นเพียงวัฒนธรรมย่อยๆ และเป็นแฟชั่นแบบชายขอบ แฟชั่นโลลิต้าก็ยังเป็นตลาดแบบ mass และสามารถพบเห็นบางส่วนบนถนนของเมืองโตเกียวและโอซาก้า บนจอทีวี ในการ์ตูนมังงะ (ดูตัวอย่างได้จากเรื่อง Paradise Kiss เขียนโดย Ai Yazawa ที่ได้รับแรงบันดาลใจจากแฟชั่นโกธิคโลลิต้า) และ เกมคอมพิวเตอร์ ส่วนประเทศอื่นๆ นอกญี่ปุ่น แฟชั่นโลลิต้ายังคงเป็นแฟชั่นชายขอบที่ยังไม่เป็นที่รู้จักอย่างกว้างขวาง นัก ทั้งๆ ที่โลลิต้าได้เริ่มเผยแพร่ไปยังประเทศอื่นๆ อย่างช้าๆ
เรา สามารถเห็นการแต่งคอสเพลย์และปรากฏการณ์ทางวัฒนธรรมญี่ปุ่นอื่นๆ สไตล์โกธิคโลลิต้าบนเวทีคอนเสิร์ตและงานอนิเมะได้ทั้งในแถบยุโรปและสหรัฐ อเมริกา สไตล์โกธิคโลลิต้านี้ยังไม่เป็นตลาด mass นอก ประเทศญี่ปุ่น ถึงแม้ว่าแบรนด์ของญี่ปุ่นที่สามารถสั่งซื้อได้โดยตรงจากต่างประเทศจะมี จำนวนมากขึ้นก็ตาม อย่างไรก็ตามมีสาวกจำนวนมากที่มาเติมช่องว่างที่เหลืออยู่ นิตยสารโกธิคโลลิต้าสามารถหาซื้อได้ทางอินเตอร์เน็ต และร้านหนังสือญี่ปุ่นที่วางจำหน่ายอนิเมและมังงะ สาวกโลลิต้ามักจะเย็บชุดโลลิต้าด้วยตัวเอง บางครั้งก็อาจจะซื้อสำเร็จรูป สำหรับ ความยากง่ายในการหาซื้อจากประเทศญี่ปุ่น สิ่งเหล่านี้แตกต่างจากแฟชั่นตะวันตกส่วนใหญ่ แฟชั่นโลลิต้ามักจะถูกตั้งความคาดหวังไว้สูงกว่านั้น เสื้อผ้าที่มีคุณภาพสูง ไม่ใช้ลูกไม้ราคาถูก และไม่ใช่ดีไซน์คอสเพลย์ สาวกโลลิต้าจำนวนมากซื้อชุดโลลิต้า accessories และตุ๊กตาผ่านมาทางออนไลน์จากแบรนด์ญี่ปุ่น เช่น Baby, The Stars Shine Bright หรือทาง ebay หรือ Lolita fellow อื่นๆ
Gothic & Lolita Bible
มีนิตยสารฉบับหนึ่งที่มีเนื้อหาเกี่ยวกับ Gothic & Lolita โดยเฉพาะเล่มที่มีชื่อว่า Gothic & Lolita Bible ซึ่ง มีบทบาทในการเป็นสื่อที่โปรโมทและทำสไตล์นี้ให้เป็นมาตรฐาน เนื้อหาในนิตยสารกว่าร้อยหน้ามีทั้งเกร็ดเล็กเกร็ดน้อยเกี่ยวกับแฟชั่น รูปภาพ แพทเทิร์นที่ใช้ตัดเย็บ คำอธิบายของแคตตาล็อก ไอเดียในการตกแต่ง และตำราอาหาร นิตยสารเล่มนี้มีแผนในการวางจำหน่ายเป็นเวอร์ชั่นภาษาอังกฤษในเดือน กุมภาพันธ์ 2008
แปลโดย We Cosplay
อ้างอิงจาก http://en.wikipedia.org/wiki/Lolita_fashion
ไม่มีความคิดเห็น:
แสดงความคิดเห็น